เปิดเบื้องหลังความสำเร็จ "เจ้าแม่ไลฟ์" เผยทริกการเลือกสรรสินค้าสำหรับตลาดไลฟ์
LIEKR:
** บทความต้นฉบับจัดทำโดย เจิ้งไค่หยาง CEO ของ JamboLive Technology LTD. โดยเนื้อหาบางส่วนอาจได้รับการดัดแปลงเพื่อให้เหมาะกับบริบทของผู้อ่านภาษาไทย
ในโลกของการขายผ่านการถ่ายทอดสดทางออนไลน์ มันไม่ใช่แค่การเปิดกล้องแล้วพูดคุยเพื่อขายสินค้าเท่านั้นนะ แต่ยังมีเครือข่ายซัพพลายเชนที่ซับซ้อนอยู่ ซึ่งเราต้องคำนึงถึงเวลาและต้นทุนการดำเนินงานอย่างพิถีพิถันอีกด้วย ในทีมของการถ่ายทอดสด บทบาทที่สำคัญมาก ๆ คือ "ทีมงานหลังบ้านที่ช่วยเลือกสินค้า" แต่หน้าที่ของพวกเขาคืออะไรและวิธีการเลือกสินค้าควรที่จะเลือกจากอะไร มาอ่านต่อกันในบทความนี้ได้เลย
ไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมพบกับโค้ชในที่ทำงานของผม โค้ชคนนั้นอายุเกือบ 70 ปีแล้ว โค้ชถามผมว่า "คุณเคยได้ยินเรื่องของ 'เสี่ยวหลิวไลฟ์สด' เจิ้งเซียงเซียงไหม" หลังจากนั้นเขาก็เล่าว่าเจิ้งเซียงเซียงสามารถทำยอดขายจากการไลฟ์สดในหนึ่งสัปดาห์ได้มากกว่า 400 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือราว 450 ล้านบาท ที่ธุรกิจขนาดเล็กและกลางยังไม่สามารถทำได้ในเวลา 10 ปีด้วยซ้ำ แต่เธอทำได้ในเวลาเพียงแค่ 7 วัน ถือว่าเป็นอะไรที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก
"เจ้าแม่ไลฟ์สดยุคใหม่" หรือ เจิ้งเซียงเซียง คือนักไลฟ์สดชื่อดังตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 เธอขายสินค้าทุก ๆ 3 ถึง 10 วินาทีในระหว่างการไลฟ์ เทคนิคการขายของเธอถูกเปรียบเทียบกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีชื่อเสียงในเมืองจีนอย่าง Pinduoduo
การไลฟ์สดเพียง 3-4 ชั่วโมงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย เพราะจริง ๆ แล้วหลังบ้านการไลฟ์สดขายของมีเครือข่ายซัพพลายเชนที่ซับซ้อนกว่าช่องทางค้าปลีกในที่มีหน้าร้านจริง ๆ ซะอีก การไลฟ์สดจึงจำเป็นที่จะต้องการการคำนวณเวลาและต้นทุนการดำเนินงานหลังบ้านอย่างแม่นยำเพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น ดังนั้นถ้าอยากมียอดขายปัง ๆ ในการไลฟ์สด การพึ่งพาแค่นักไลฟ์หรือผู้ไลฟ์ที่อยู่หน้ากล้องเป็นอะไรที่ไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว การจะขายสินค้าควรที่จะต้องอาศัยทั้งทีมหลังบ้านและผู้ไลฟ์ในการประสานงานกันเพื่อทำให้เกิดการไลฟ์สดและการจัดการหลังบ้านที่ไหลลื่น
และแล้วก็มาถึงการอธิบายที่ถูกเกริ่นไว้ที่ต้นบทความนั่นก็คือ "ทีมงานหลังบ้านที่ช่วยเลือกสินค้า" ทีมงานหลังบ้านที่ช่วยเลือกสินค้า มีหน้าที่ที่สำคัญในการปรับปรุงวิธีการทำให้สินค้าสามารถขายได้ ซึ่งนั่นก็คือการค้นหาคุณสมบัติเด่นของสินค้าที่ขาย เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่ไลฟ์สดอยู่หน้ากล้องสามารถให้ประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ซื้อได้แบบไม่มีสะดุดและสามารถขายได้
ทีมงานหลังบ้านที่ช่วยเลือกสินค้า มีขั้นตอนการเลือกสินค้า 2 ขั้นตอน
ขั้นตอนแรก
กรองสินค้าโดยใช้ข้อมูลจากสถิติและประสบการณ์ นอกจากจะต้องพิจารณาว่าสินค้านั้นได้รับความนิยมในตลาดหรือไม่ ต้องเลือกสินค้าที่เหมาะสมกับบุคลิกของผู้ไลฟ์สด พร้อมค้นหาสินค้าที่จะขายเป็นหลักในขั้นตอนนี้ด้วย
ขั้นตอนที่สอง
เขียนข้อมูลสินค้าตามลักษณะของสินค้าเพื่อนำไปใช้เป็นเนื้อหาในการไลฟ์สดขายสินค้า การจับโจทย์ของสินค้าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก แต่ละแพลตฟอร์มหรือแบรนด์ก็อาจจะต้องมีแนวทางการขายที่แตกต่างกันออกไป โดยทริคเด็ด คือการใช้หลักการ "573" ของสินค้า
"5 จุดขายที่แตกต่าง"
เพื่อโปรโมทสินค้าผ่านช่องทางการถ่ายทอดสดออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ เราสามารถเน้นที่ 5 จุดขายที่สำคัญ เช่น การค้นหาคุณลักษณะเฉพาะของสินค้า การเล่าเรื่องราวของแบรนด์ ความพิเศษของแหล่งที่มาของสินค้า และประเภทของสินค้า เพื่อสร้างความประทับใจและดึงดูดให้กับผู้ชม แนะนำให้เน้นจุดขายเหล่านี้อย่างน้อยสองครั้งในการถ่ายทอดสด เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ชมได้รับข้อมูลและเข้าใจถึงคุณค่าของสินค้าได้อย่างชัดเจน
"7 คุณสมบัติของสินค้า"
เราควรระบุคุณสมบัติทั่วไปของสินค้า และจัดลำดับตามความต้องการของผู้บริโภค โดยบ่งบอกถึงคุณค่าที่ผู้บริโภคจะได้รับจากสินค้าที่เราขาย สำหรับคุณสมบัติทั่วไปของสินค้าที่ทุกแบรนด์มักจะมีอาจจะเป็น ความทนทาน, คุณภาพของวัสดุ, การใช้งานง่าย, ความปลอดภัย, และการบำรุงรักษาที่ง่าย ส่วนในการจัดลำดับตามความต้องการของผู้บริโภค สิ่งสำคัญอาจมีการจัดลำดับการให้ความสำคัญของกลุ่มลูกค้าของเราว่าปัจจัยอะไร เป็นที่ต้องการของกลุ่มคนดู เช่น หากกลุ่มลูกค้าของเรามองหาคุณภาพเป็นสิ่งที่สำคัญ ความทนทานและคุณภาพของวัสดุอาจจะได้รับการจัดลำดับไว้ในอันดับแรกที่ถูกพูดถึงหรือพูดบ่อยในไลฟ์สดตอนขายสินค้านั้น ๆ
"3 ฉากการใช้งาน"
ในระหว่างไลฟ์สด เพิ่มฉากการใช้งานบางฉาก จะทำให้ไลฟ์น่าสนใจยิ่งขึ้น การอยู่แต่ในฉากเดิม ๆ อาจจะทำให้ผู้ชมเราเบื่อ การมีอะไรที่เปลี่ยนแแปลงและแปลกใหม่ในไลฟ์จะทำให้ผู้ชมมีความรู้สึกมีส่วนร่วมมากขึ้น
สุดท้าย ทีมงานหลังบ้านที่ช่วยเลือกสินค้าต้องมั่นใจว่า สินค้า ข้อมูลสินค้า คุณภาพการขาย และบทพูดมีความสอดคล้องกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค พ่อค้าแม่ค้าไลฟ์สดชื่อดังที่ขายเก่ง ๆ สามารถพูดให้สินค้าธรรมดากลายเป็นสินค้าที่ดูมีค่าได้ แต่บางครั้งก็มีกรณีที่ไลฟ์สดที่ตุ๊บเพราะคำพูดในไลฟ์หรือขายของที่ไม่มีคุณภาพออกไปทำผู้บริโภคร้องเรียนได้ ดังนั้นทีมงานหลังบ้านที่ช่วยเลือกสินค้าจึงต้องเป็นผู้กรองสินค้าร่วมกับผู้ไลฟ์ และไม่ลืมที่จะเปรียบเทียบกับทดลองใช้สินค้าก่อนนำมาขาย
นักไลฟ์ที่มีชื่อเสียงและดาราบางคนจะมีมาตรฐานการเลือกสินค้าที่สูง และจะจัดประชุมเพื่อให้ทีมงานประเมินผลิตภัณฑ์ การเลือกสินค้าที่ดีสามารถลดอัตราการคืนสินค้าและเพิ่มมูลค่าแบรนด์ของผู้ไลฟ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่มีให้มีดราม่าหรือปัญหาต่าง ๆ ตามมาทีหลัง
เจิ้งไคหยาง ผู้บริหาร JamboLive ทิ้งท้ายว่า "ผมชอบคำพูดของ Peter Drucker ที่พูดว่า "องค์กรคือการรวมกลุ่มคนธรรมดาเพื่อทำสิ่งที่ไม่ธรรมดา" การใช้คำนี้อธิบายทีมไลฟ์สดนั้นเหมาะสมอย่างยิ่ง การเลือกสินค้ามีบทบาทสำคัญในการเติบโตของธุรกิจการขายผ่านการไลฟ์สด นอกจากการเลือกสินค้าที่มีคุณภาพและน่าสนใจ การเลือกสินค้าที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายยังเป็นปัจจัยสำคัญอีกด้วย เพราะมันมีผลต่อประสิทธิภาพของการขายเป็นอย่างมาก"
เป็นยังไงกันบ้างคะกับเคสของแม่ค้าไลฟ์สดที่ทำยอดขายถล่มถลาย อ่านแล้วทำให้มีแรงกำลังใจที่จะฮึดสู้ต่อไปเพื่อให้มีซักวันที่เป็นวันปัง ๆ ของเรากันบ้างไหมคะ จัมโบ้หวังว่าทุกคนจะสามารถทำตามฝันได้ และนำทริคความรู้ดี ๆ นี้ไปใช้ในการเลือกสินค้ามาขายของออนไลน์กันนะคะ
นอกจากทีมงานหลังบ้านที่ดีแล้วการมีระบบหลังบ้านที่ดีเป็นตัวช่วยขายอย่างระบบดูดออเดอร์ & จัดการหลังบ้าน JamboLive ก็จะทำให้การขายเป็นไปได้อย่างราบรื่นและจัดการเป็นระบบไม่งงและไม่สับสนอีกด้วย!
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ติดต่อ
LINE : @jamboliveth (มี@)
INBOX : http://m.me/jamboliveth
WEBSITE : https://th.jambolive.tv/
โทร : 095-174-4436