เมื่อไม่นานมานี้ชาวเน็ตรายหนึ่งได้ตั้งกระทู้โพสต์ระบายเรื่องราวชีวิตส่วนตัว เมื่อต้องทำงานไปควบคู่กับดูแลคุณแม่วัยชรา อีกทั้งยังมีอาการวัยทอง อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ จนตนเองรู้สึกบั่นทอนจิตใจ ออกไปทำงาน แม่ก็บ่นน้อยใจ บอกไม่มีคนดูแล แต่พอหาคนมาดูแล แม่ก็ด่าไล่ออกไปหมด

    เจ้าของกระทู้เล่าว่าตนเองอาศัยอยู่กับคุณแม่วัน 68 ปี คุณแม่เป็นคนที่นิสัยใจร้อน มุทะลุ โกรธง่ายหายช้า ขี้หงุดหงิด ชอบบ่นทุกอย่างทุกคนทุกเรื่อง มองโลกในแง่ลบ และยังมีอาการวัยทองร่วมด้วย

    พอลูกออกไปทำงานหาเงินก็น้อยใจ บ่นไม่มีคนดูแลที่บ้าน ซึ่งในมุมมองของลูกก็มองว่า "ถ้าไม่ออกไปทำงานเราสองคนแม่ลูกจะเอาอะไรกิน" เพราะที่บ้านไม่ได้มีเงินถุงเงินถังอย่างใครอื่นเขา

    ทุกวันนี้ซื้อคอนโดให้อยู่ แต่ช่วงกลางวันตนก็ต้องออกไปทำงาน กลับดึกเพราะทำงานโรงงาน บางครั้งก็ต้องออกต่างจังหวัด เป็นเซลล์ขายของ จะหางานอื่นก็ยากมากในยุคเศรษฐกิจแบบนี้

    ช่วงกลางวันที่ออกไปทำงาน คุณแม่ก็จะไลน์ไปประชดประชัน ด่าเหมือนตนเป็นคนอกตัญญู ไม่ดูแลแม่ยามชรา ตนก็พยายามหาคนมาอยู่ด้วย มาคอยดูแล จ้างคนจากเนิสซิ่งแคร์ มาคอยปรนนิบัติ ก็ไล่ออกทุกคนทุกเดือน ไม่พอใจเด็กที่มาอยู่ด้วยสักคน 

เป็นเพียงภาพประกอบบทความเท่านั้น

    ส่วนใหญ่จะคาดหวังกับเด็กเยอะ ต้องรู้ใจไปหมดทุกเรื่อง ต้องขับรถได้ ทำอาหารได้ ทำความสะอาดต้องเนี้ยบทุกกระเบียดนิ้ว ต้องไม่พูดขัดใจ เด็กเงียบเกินไปก็บอกว่าเด็กโง่ เด็กพูดมากก็ไลน์มาบ่นว่ารำคาญให้เปลี่ยนคน ฯลฯ

    ตอนนี้คุณแม่ไม่ได้ป่วยอะไรมากก็มีโรคความดัน เบาหวาน เดินช้าลงบ้าง แต่ยังขับรถได้ ไปไหนมาไหนได้ มีบ้างบางครั้งที่เธอต้องไปส่งหาหมอตามนัด ก็ต้องลางาน แต่ลางานบ่อย ๆ ก็เริ่มโดนเพ่งเล็ง

    ตัวลูกก็ไม่สามารถมีครอบครัวหรือมีภรรยาได้ เพราะแม่ไม่เอาลูกสะใภ้คนไทย จะเอาแต่ฝรั่ง เพราะบอกว่าลูกสะใภ้คนไทยเลวหมดทุกคน

    ตนเองก็เริ่มอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ก็เริ่มมีปัญหาสุขภาพส่วนตัว แต่ไปพูดให้แม่ฟังแม่ก็ไม่ค่อยสนใจ เพราะแม่จะสนใจเรื่องตัวเองเป็นหลัก เงินที่ตนหามาได้ก็เอาให้แม่ใช้ทุกเดือนไม่ได้ขาด มีคอนโดให้เช่าอีกที่ก็เอาเงินค่าเช่าให้แม่หมด

    ส่วนเรื่องที่จะพาคุณแม่ไปอยู่เนิสซิ่งโฮมก็เลิกคิดได้เลย เพราะเคยเอาไปอยู่ก็ไม่พอใจทุกเรื่อง เดี๋ยวแพงไป เดี๋ยวคนดูแลไม่เอาใจใส่ หงุดหงิดไปหมด

    ก่อนจะจบท้ายประโยคว่า "คงได้แค่ระบายและก็ต้องทนต่อไป อยู่ดูแลกันไปจนตายข้างนึง"

    ด้านชาวเน็ตจำนวนมากก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ โดยส่วนใหญ่รู้สึกเห็นใจและเข้าใจถึงความอึดอัดของเจ้าของกระทู้ บางรายก็ได้เข้ามาแนะนำให้พาคุณแม่ไปพบจิตแพทย์ หรือ ให้เจ้าของโทรไปปรึกษาแพทย์ เกี่ยวกับอาการของคุณแม่ก่อนก็ได้ เพราะไม่งั้นคนที่จะเป็นบ้าก่อนอาจจะเป็นเจ้าของกระทู้ก็ได้ 

.

    เพื่อน ๆ คนไหนเคยมีประสบการณ์คล้าย ๆ กัน หรือมีคำแนะนำดี ๆ สามารถคอมเมนต์มาบอกเล่าแบ่งปันกันได้เลยนะ

ที่มา : สมาชิกหมายเลข 6817653