แต่ละห้องเรียนมักจะมีกฎระเบียบที่อาจไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด แต่ทุกๆ กฎต่างก็ต้องตั้งขึ้นมาจากการตกลงกันระหว่างครูและนักเรียน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความไม่เข้าใจหรือไม่สบายใจ จนอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจได้ แบบตัวอย่างคุณครูรายนี้

    สมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ระบุว่าเธอเป็นครูผู้สอนมากว่า 28 ปี แต่กลับเจอพฤติกรรมของเด็กนักเรียนหญิงรายหนึ่ง ที่เธอเน้นย้ำเลยว่า "รับไม่ได้" เนื่องจากในห้องเรียนชั้น ม.1 ครูสาวรายนี้ตั้งกฎให้นักเรียนต้องนำขยะไปทิ้งที่ห้อง ม.4 เพราะห้องของเธอจะไม่มีนโยบายให้มีถังขยะในห้องเรียน

    ครูรายนี้ยังกล่าวอีกว่า สาเหตุที่ตั้งกฎแบบนี้เนื่องจากนักเรียนที่มาเรียนจะทิ้งขยะที่หน้าห้องเรียน จึงต้องบอกให้เก็บและนำไปทิ้งที่ถังขยะห้องพี่ ม.4 แทน

    กระทั่งไม่นานหลังจากนั้น นักเรียนหญิงรายหนึ่งของระดับชั้น ม.4 ซื้อถังขยะมาให้ครู เขียนใส่กระดาษติดไว้ว่า หนูซื้อมาให้ค่ะ ขี้เกียจเอาไปทิ้งเหมือนกันค่ะ เลิกเอาขยะมาทิ้งได้แล้วนะคะ

    ทำเอาคุณครูสาวรายนี้ถึงกับของขึ้น ตัดพ้อว่าเราคงจะแก่เกินไปแล้ว จึงรับพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้ ต้องเขียนกระดาษฝากไปบอกนักเรียนรายนั้นว่า ครูไม่ได้ต้องการถังขยะ แต่ถามว่าจิตอาสามีไหม

    ทว่าเมื่อเรื่องราวเผยแพร่ออกไป กลับมีความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของคุณครูรายนี้เป็นจำนวนมาก ว่าเหตุใดครูถึงไม่ให้มีถังขยะในห้องเรียน ขยะของตัวเองแท้ๆ แต่เอาไปทิ้งให้ห้องคนอื่นต้องไปเก็บไปทิ้งแทน มาถามหาคำว่าจิตอาสากับเขา ทั้งที่ตัวเองไม่มีมารยาท

ความคิดเห็นชาวเน็ต

    บ้างก็กล่าวว่า ที่คุณครูไม่ให้มีถังขยะในห้องเรียน อาจจะเป็นเพราะว่าไม่อยากให้ห้องดูสกปรกหรือมีกลิ่นขยะ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ก็ไม่ควรเอาขยะของตัวเองไปทิ้งในถังขยะห้องอื่น หรือควรให้นักเรียนรับผิดชอบขยะของตัวเองและเอาไปทิ้งถังขยะใหญ่ของโรงเรียนดีกว่า และการเอาขยะตัวเองไปให้คนอื่นรับผิดชอบ จะมาอ้างเรื่องจิตอาสาไม่ได้ ไม่แปลกใจเลยที่นักเรียน ม.4 ต้องซื้อถังขยะมาให้ เพราะจะได้ไม่ไปเพิ่มภาระของห้องเขาอีก

    หลายคนกล่าวว่า การปลูกฝังนิสัยให้เด็กแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้เด็กคิดว่าเขาสามารถเอาขยะของตัวเองไปทิ้งให้คนอื่นเก็บแทนได้ จะเกิดปัญหาในอนาคต ทั้งๆ ที่คุณครูรายนี้มีประสบการณ์สอนมาเกือบ 30 ปี

ที่มา : Kumunjai