LIEKR:
ช่วงนี้ใครอยู่บ้านว่างๆ ก็อย่าปล่อยเวลาผ่านไปเปล่าๆ นะคะ หันมาทำอะไรที่มีประโยชน์กันดีกว่า วันนี้แอดจะพาดูวิธีปลูกพืชพันธุ์ไม้โดยการใช้วิธีปักชำ มาดูดอกชนิดแรกกันเลย
1.ดอกพุดซ้อน หรือ ดอกการ์ดีเนีย ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม นิยมปลูกกันมาก
วิธีการปักชำ:
Sponsored Ad
1.1สิ่งที่ต้องเตรียมจะมี ขวดน้ำอัดลมเปล่าที่ล้างสะอาดแล้ว สก๊อตเทปใส ฟองน้ำ หรือจะใช้โฟมแทนก็ได้ จากนั้นปาดขวดน้ำอัดลมเหมือนในภาพ แต่อย่าตัดจนขาดออกจากกัน
1.2.เลือกกิ่งต้นพุดซ้อนที่เพิ่งงอกในปีนี้ จากนั้นใช้มีดหรือกรรไกรตัดปลายกิ่งเป็นแนวเฉียง เหลือใบไม้บนแต่ละกิ่งประมาณ 3-4 ใบ
Sponsored Ad
1.3.ตัดโฟม หรือ ฟองน้ำให้เป็นวงกลมที่สามารถใส่เข้าไปในขวดน้ำอัดลมได้ จากนั้นเสียบกิ่งต้นพุดซ้อนเข้าไปบนโฟม ตามภาพ เติมน้ำลงไปในขวดน้ำอัดลมประมาณ ⅓ นำโฟมที่มีกิ่งเสียบเรียบร้อยแล้วลงไปในขวดน้ำอัดลม โดยปลายกิ่งที่ตัดเฉียงจะมิดน้ำในขวด
Sponsored Ad
1.4.วางขวดน้ำไว้ในที่มีแสงแดดส่องถึง วางทิ้งไว้ประมาณ 1 อาทิตย์ แค่นี้ก็จะเห็นรากงอกออกมาจากกิ่ง
1.5.เมื่อรากงอกออกมายาวมากพอแล้ว เหมือนในภาพ ก็สามารถนำไปปลูกในกระถางได้แล้ว
Sponsored Ad
2.ดอกมะลิ ก็เป็นดอกอีกชนิดหนึ่งที่ผู้คนนิยมปลูกกันมาก เนื่องจากมีกลิ่นหอมและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย
Sponsored Ad
วิธีการปักชำ:
2.1นำกิ่งดอกมะลิที่เพิ่งงอกในปีนี้ และต้องเป็นกิ่งไม้ที่อ้วนสมบูรณ์เคยออกดอก ไม่มีแมลง
2.2จากนั้นนำกิ่งที่เลือกมาตัดปลายเฉียง ต้องเหลือใบไว้ที่กิ่งสัก 2 ใบ นอกนั้นเด็ดหรือตัดทิ้งให้หมดเพื่อลดการระเหยของน้ำ
Sponsored Ad
2.3จากนั้นนำกิ่งไม้แช่น้ำ 30 นาที แล้วนำไปปักลงในทรายละเอียดที่ชุ่มน้ำ ช่วงนี้ให้พ่นน้ำวันละ 2 ครั้ง เพื่อทำให้ทรายชุ่มไปด้วยน้ำ วางกระถางทรายที่ปักกิ่งมะลิไว้ในที่มีลมถ่ายเท ควรเลือกวางไว้นอกอาคาร
Sponsored Ad
2.4รอจนมีรากงอกออกมา แล้วค่อยนำไปปลูกในกระถางดินทั่วไป
3. ดอกสกุลบีโกเนีย ดอกชนิดนี้มีกลีบดอกหลายชั้นมาก ทำให้ดอกไม้ดูอวบอิ่มมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือดอกชนิดนี้บานได้ยาวนานเป็นพิเศษ ซึ่งสามารถอยู่ได้ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงธันวาคมเลยทีเดียว เป็นไม้ดอกไม้ประดับที่ต้องมีติดบ้าน
วิธีการปักชำ:
3.1เตรียมขวดพลาสติกเปล่าที่ล้างสะอาดแล้ว ปิดฝาให้สนิท พร้อมกับใบมีดที่ผ่านการฆ่าเชื้อ จากนั้นนำไปเจาะรูที่ด้านข้างขวดพลาสติก โดยเจาะเว้นระยะห่างกัน 1 ซม. เติมน้ำแร่สะอาดเข้าไปให้ถึง ¾ ของขวด โดยจะวางขวดในแนวนอน
3.2การเลือกกิ่ง ให้เลือกกิ่งที่มีลำต้นใกล้ใบหลักด้านบนสุด จากนั้นนำใบมีดที่ฆ่าเชื้อตัดเฉียงปลายกิ่ง
3.3นำกิ่งที่มีใบติดมาด้วยแช่ลงไปในรูที่เจาะให้กิ่งจุ่มลงไปในน้ำ เลือกมาสัก 4-5 กิ่ง วางขวดนี้ไว้ที่มีอบอุ่นและมีลมถ่ายเทสะดวก
3.4ไม่นานมันก็จะงอกรากออกมา ก็สามารถนำไปปลูกในกระถางได้ตามปกติแล้ว
4. ดอกพิทูเนีย เป็นไม้ดอกหลาย ฤดู แต่ในขณะนี้นิยมปลูกพิทูเนียให้เป็นไม้ฤดูเดียว มีพุ่มต้นเตี้ย และค่อนข้างไปทางเลื้อยเป็นไม้เนื้ออ่อน ดอกมีรูปร่างเป็นรูปกรวย ดอกมีทั้งชนิดดอกเดี่ยวหรือ ดอกซ้อน กลีบรองดอก แยกเป็น 5 แฉก มีคอดอก ยาว
วิธีการปักชำ:
4.1เลือกกิ่งที่เป็นยอดอ่อน ไม่มีแมลงกัดกิน เป็นยอดที่มีความสมบูรณ์ มีความยาวประมาณ 10 ซม.ทุกๆ กิ่งจะต้องมีใบประมาณ 3 ใบ จากนั้นตัดแนวเฉียงแต่ไม่มาก
4.2ปักกรรไกรลงไปในทรายธรรมดาหรือดินเพาะปลูก จากนั้นค่อยปักกิ่งที่เตรียมไว้ลงไปเพื่อให้หน้าดินมีรูหลุมก่อน แล้วกดรอบดินให้ถมกิ่ง
.
4.3เมื่อปักเสร็จแล้ว ก็รดน้ำให้ดินชุ่มเล็กน้อย จากนั้นนำฟิล์มถนอมอาหารปิดคลุม แล้วไม่ต้องรดน้ำอีก วางกระถางไว้กลางแดดประมาณครึ่งเดือน เท่านี้รากก็จะค่อยๆ งอกออกมาเอง
4.4เมื่อรากงอกออกมาพอประมาณแล้ว ก็สามารถนำไปปลูกได้ตามปกติ ไม่นานก็จะออกดอกสวยงามเอง
.
5. ดอกไฮเดรนเยีย ดอกไม้เปลี่ยนสีได้ ใช้แทนคำขอบคุณ กลีบดอกค่อนข้างหนา ทนทาน ช่อดอกมีขนาด 12-14 ซ.ม. ในหนึ่งต้นจะมีช่อดอกประมาณ 8-10 ดอก
ระยะเวลาในการตัดดอกไฮเดรนเยีย ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ก่อนออกดอก คุณสามารถเริ่มตัดเลือกกิ่งไม้ได้แล้ว อุณหภูมิที่เหมาะสมในการปักชำคือ 13-18 องศาเซลเซียส
วิธีการปักชำ:
5.1ใช้คัตเตอร์ตัดกิ่งที่เลือก แนะนำว่าเป็นกิ่งที่งอกในปีนี้
5.2ตัดบริเวณด้านล่างที่มีกิ่งแยก และตัดยอดออก จากนั้นเลือกตัดใบออก ⅔ ของใบ
5.3ก่อนปักชำ ให้แช่กิ่งดอกไฮเดรนเยียที่เลือกในน้ำด่างทับทิม หรือคาร์เบนดาซิสักครู่ แล้วค่อยนำไปปักลงในดินร่วนหรือดินเพาะปลูกก็ได้ที่รดน้ำจนชุ่มทั่วดิน โดยเลือกวางกระถางไว้ในที่ไม่ร่มรื่น อุณหภูมิ 25-30 องศาเซลเซียส
.
5.4ระหว่างนี้ก็หมั่นรดน้ำเสมอ เพื่อให้ดินมีความชุ่มน้ำเสมอ ปักกิ่งไว้ประมาณ 20 วันก็จะงอกรากออกมาเอง หลังจาก 1 เดือนก็จะนำไปเพาะปลูกได้ตามปกติแล้ว
ที่มา : teepr| เรียบเรียงโดย Liekr