เปิดวาร์ป "สุพัตรา ไพโรจน์" ประวัติลิเบอโรร่างจิ๋ว ตัวรับอิสระสุดเหนียว หนึ่งในตัวช่วยที่ดีของทีมชาติไทย

LIEKR:

เธอคนนี้จิ๋วแต่แจ๋วของจริง! #สุพัตราไพโรจน์

    ทำความรู้จัก "เอ สุพัตรา ไพโรจน์" ตัวรับอิสระ หรือ ลิเบโร (Libero) ร่างจิ๋ว หนึ่งในตัวช่วยที่ดีของทีมชาติ เป็นอีกหนึ่งจิกซอว์ชิ้นสำคัญที่ทำให้วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ทะลุมาถึง รอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีก 2022 ด้วยเกมรับเหนียวแน่น

    "เอ สุพัตรา ไพโรจน์" ตำแหน่งตัวรับอิสระร่างจิ๋ว ที่บอกเลยว่าเธอคนนี้ไม่ธรรมดา แม้ว่าจะคอยเป็นตัวทดแทนเวลาที่ ลิเบอโร่ตัวจริงอย่าง ปลาวาฬ ปิยะนุช แป้นน้อย ลงสนามไม่ได้ แต่บอกได้เลยว่าการลงสนามของเธอในแต่ละครั้งนั้น ได้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้กับทีม ไม่ว่าจะเจอลูกแบบไหนก็ทุ่มสุดตัวไปรับลูกได้เกือบหมด ไม่หวั่นแม้โดนบอลอัดหน้า

 

Sponsored Ad

 

    สำหรับ เอ สุพัตรา ไพโรจน์ นักวอลเลย์บอลหญิง วัย 32 ปี เกิดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 1990 หรือ พ.ศ. 2533 เริ่มเล่นวอลเลย์บอลตั้งแต่ อายุ 7 ขวบ ที่โรงเรียนหนองปากดง จังหวัดกำแพงเพชร โดยมีคุณครูจำนงค์ วัฒนะพงษ์ จับมาฝึกเล่นและส่งแข่งขันในจังหวัดรวมถึงวิทยุการบิน

    พอจบ ป.6 เธอก็ได้ย้ายมามาเรียนที่บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ในกรุงเทพฯ เนื่องจากมีรุ่นพี่ (พี่ผึ้ง-น้ำผึ้ง คำอาจ) เป็นนักวอลเลย์บอลมาเรียนก่อน และโค้ชของบดินทร์ฯ มาดูเด็กที่โรงเรียนบ้านหนองปากดง ก็เลยได้ เอ สุพัตรา ไพโรจน์ มาที่บดินทร์

 

Sponsored Ad

 

    แรกเริ่ม เอ สุพัตรา เล่นตัวตีบอลก่อน จนกระทั่ง ม.2 อาจารย์หน่อง-นิพนธ์ แจ่มแจ้ง เห็นว่าแววว่าเธอตัวเล็กและมีทักษะการรับดีกว่าในเพื่อรุ่นเดียวกัน จึงขยับมาเล่นเป็นตัวรับอิสระ หรือ ลิเบอโร

    ช่วง ม.6 เอ สุพัตรา ไพโรจน์ ติดทีมเยาวชนไปชิงแชมป์เอเชีย ที่ไต้หวัน ปี 2551 และชิงแชมป์เยาวชนอาเซียน ที่อินโดนีเซีย ในปีเดียวกัน พอเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปี 1  ได้ไปชิงแชมป์โลกเยาวชนๅ ประเทศเม็กซิโก แต่หลังจากนั้น เอ สุพัตรา ไพโรจน์ ไม่ผ่านการคัดเลือกระดับทีมชาติ ทำให้เธอก็มุ่งเรียนและเล่นลีกให้กับสุพรีม-นครศรีธรรมราช ชื่อเดิมก่อนเปลี่ยนมาเป็น สุพรีม ชลบุรี-อี.เทค.

 

Sponsored Ad

 

    ต่อมาในช่วงปี 2559 เอ สุพัตรา ฟอร์มของเธอโดดเด่นมาก จนกระทั่งได้รางวัลตัวรับอิสระยอดเยี่ยม ของไทยลีก และนั่นทำให้เธอถูกเรียกเข้าแคมป์ทีมชาติซ้อมกับรุ่นพี่ ในเวลานั้น และติดทีมชาติไทยเรื่อยมา

    ผลงานกับสโมสร สุพรีม ชลบุรี-อี.เทค.ของสุพัตรา ไพโรจน์นั้น โดดเด่นมากๆ โดยเธอ ได้รับรางวัลตัวรับอิสระยอดเยี่ยม 2 ฤดูกาลซ้อน ในปี 2016–17 , 2017–18 และเธอยังมีส่วนช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์ไทยลีก 3 ครั้ง ด้วยกัน

 

Sponsored Ad

 

"สุพัตรา ไพโรจน์" กับไวรัลโดนตบเข้าเต็มหน้า

    นอกจากนี้ในการแข่งขัน วอลเลย์บอลเนชั่นส์ ลีก 2022 ในแมตช์ที่ ไทย แพ้ อิตาลี ในรอบจัดอันดับ "เอ สุพัตรา ไพโรจน์" ก็ยังกลายเป็นไวรัลอีกด้วย 

 

Sponsored Ad

 

    เพราะโดนลูกตบ อันทรงพลัง  104 กม./ชม. จาก ปาโอลา โอเชกี อีโกนู (Paola Ogechi Egonu) สตาร์ดังอิตาลี อัดเข้ากระแทกหน้าอย่างจัง ซึ่งการถูกลูกบอลเร็วและแรงขนาดนั้น แทบไม่ต่างอะไรกับการถูกรถชนเข้าเต็ม ๆ หน้า

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

    และไม่รู้จะเรียกว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดดีหรือไม่ เพราะในแมตช์ที่ ไทย แพ้ ตุรกี ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย "เอ สุพัตรา ไพโรจน์" ก็โดนลูกตบของ "เอดา เออร์เด็ม" บอลเร็วกัปตันตุรกี อัดเข้าหน้าเต็ม ๆ อีกครั้ง

 

Sponsored Ad

 

    อย่างไรก็ตามทั้ง "ปาโอลา โอเชกี อีโกนู" และ "เอดา เออร์เด็ม" ก็ได้รีบวิ่งข้ามแดนมาดูอาการของ สุพัตรา ไพโรจน์ ทันทีที่เห็นว่าบอลอัดหน้าเธออย่างจัง เข้าไปขอโทษขอโพย ก่อนที่ สุพัตรา จะถูกพยุงปีกออกไปประคบน้ำแข็งอยู่นอกสนาม

ชมคลิป

Sponsored Ad

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

    กลายจังหวะประทับใจของแฟน ๆ ลูกยางทั้งไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้แฟนๆวอลเลย์บอลไทยต่างชื่นชมในความสามารถและฝีมือการรับลูกของสุพัตรา ทั้งบอกว่า รับบอลเหนียวมาก รับบอลเร็ว ไม่ยอมให้บอลตกพื้นได้ง่าย ๆ ถึงตัวจะเล็กแต่รับบอลได้ดี ทำให้ไทยมีเกมรับที่เหนียวขึ้น 

    สำหรับที่ชื่นชอบผลงานและอยากติดตามเธอคนนี้เพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่ IG : aasupattraa

.

.

.

ที่มา : aasupattraa 

บทความที่คุณอาจสนใจ