กรมศุลกากรรับผิด ประมูลนาฬิกาปลอม ล่าสุดสั่งยกเลิกประมูลเรียบร้อย
LIEKR:
จากกรณีมีผู้เสียหายร้องเรียนสื่อ หลังเข้าร่วมการประมูลสินค้าของกลางที่กรมศุลกากรตรวจยึดมาได้ ในราคา 2.2 ล้าน แต่เมื่อนำไปตรวจเช็กพบเป็นของปลอม ล่าสุดกรมศุลกากรออกมายอมรับนำนาฬิกาปลอม มาปล่อยประมูลจริง ขอโทษผู้เข้าประมูลและยินดีคืนเงิน ล่าสุดเรียกคืนแล้ว 13 เรือน พบปลอม 4 เรือน
วันที่ 10 ก.ค. 66 นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร ได้เผยถึงประเด็นดังกล่าว พร้อมข้อเท็จจริงดังนี้ เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2565 เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร เข้าตรวจค้นร้านขายนาฬิกาบริเวณศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง พบนาฬิกามีเครื่องหมายการค้า จำนวน 14 รายการ จึงเชิญเจ้าของสิทธิ์มาตรวจสอบ พบว่า มีจำนวน 1 เรือน เป็นสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า และอีก 13 เรือน เป็นของที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์
ต่อมา กรมศุลกากร จึงนำ 13 เรือน และได้ประกาศขายทอดตลาด ในวันที่ 28 มิ.ย. 2566 โดยเปิดให้เข้าชมของกลาง วันที่ 5 ก.ค. 2566 และเปิดซองการประมูล วันที่ 6 ก.ค. 2566 มีผู้เข้าร่วมการประมูลทั้งสิ้น 18 ราย
ซึ่งหลังจากได้รับข้อมูลจากผู้ประมูลว่านาฬิกาที่มีการประมูลจากกรมศุลกากรเป็นสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ก็ได้รีบตรวจสอบทันที และได้เชิญเจ้าของสิทธิมาหารืออีกครั้ง เจ้าของสิทธิแจ้งว่า นาฬิกาทั้งหมดที่ได้ประมูลไปนั้นเป็นสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า
ล่าสุดออกคำสั่งยกเลิกการประมูล และให้คืนเงินให้กับผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด โดยในส่วนของกรมศุลกากรจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทุกขั้นตอนของการประมูล ตลอดจนถึงขั้นตอนการส่งมอบนาฬิกาว่ามีการสลับนาฬิกาตามคำบอกเล่าหรือไม่
นายพันธ์ทอง กล่าวว่า กรมฯ ยอมรับผิดในส่วนนี้ และขอโทษสำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอย่างจริงใจ ซึ่งตอนนี้กรมฯ ได้ยกเลิกการประมูลทั้ง 13 เรือนเรียบร้อย แม้จะยังไม่มีข้อมูลทางการยืนยันว่าเป็นของปลอมทั้งหมดกี่เรือน แต่เบื้องต้นมีการยืนยันมาแล้วว่าเป็นของปลอม 4 เรือน ซึ่งในส่วนนี้จะเร่งคืนเงินให้กับผู้เสียหายภายในวันนี้ (10 ก.ค.) ส่วนที่เหลือหลังจากนี้จะเร่งคืนเงินมัดจำให้ผู้ประมูลทั้งหมด
และจะหารือเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนรูปแบบและกระบวนการประมูล เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต ช่วงนี้กรมฯ อาจจะไม่ควรประมูลขายอะไร คงต้องปรับระเบียบให้เรียบร้อยก่อน เพื่อไม่ให้อนาคตเกิดเรื่องแบบนี้อีก
ที่ผ่านมากระบวนการประมูลของกรมฯ ก็ทำแบบนี้มาตลอด และหากกรมฯ รู้ว่ามันเป็นของปลอมก็คงไม่เอามาประมูลเพื่อให้เกิดปัญหาแบบนี้ จึงอยากขอโทษด้วยใจ ขอโทษผู้ซื้อและทุก ๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง กรมฯ รู้สึกผิดจริง ๆ ที่เอาของปลอมมาประมูล แต่กรมฯ ก็ได้รับการยืนยันมาก่อนแล้วว่านาฬิกาดังกล่าวเป็นของจริง จึงได้ดำเนินการประมูล
ที่มา : thairath, khaosod, dailynews