"ใบหูกวางแห้ง" เป็นที่ต้องการของตลาดไทยและต่างประเทศ ส่งออกราคาสูงลิ่ว สร้างรายได้กิโลกรัมละ 500
LIEKR:
ใครจะเชื่อว่า “ใบหูกวาง”ที่หล่นลงพื้นไม่มีใครสนใจ จะเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สร้างนายได้ดีไม่น้อย นั้นก็คือ การจำหน่าย “ใบหูกวางแห้ง” ซึ่งราคาสูงถึง กิโลกรัมละ 500 บาท ทั้งนี้เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ที่สำคัญ ใบหูกวางแห้งนั้นหาได้ไม่ยากเลย
ใบหูกวางแห้งอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 500 บาท หรือตกขีดละ 50 บาท โดย 1 ถุง มีการบรรจุใบหูกวางแห้งในปริมาณ 50 กรัม จำหน่ายในราคาถุงละ 25 บาท นอกจากนั้น ยังมีการทำเป็นน้ำหมัก จำหน่ายลิตรละ 80 บาท ซึ่งมีลูกค้าในแวดวงคนเลี้ยงปลากัดให้ความสนใจสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก
ส่วนสรรพคุณของใบหูกวาง ทางผู้ขๅยระบุใบแห้งของใบหูกวาง จะให้สารแทนนิน ซึ่งใช้ได้ดีมากกับปลากัด ทำให้ปลาลดความเครียด มีสุขภาพที่ดี ป้องกันการติดเชื้อบางชนิด เป็นยาครอบจักรวาลใช้รักษาปลาได้ดี และใบหูกวาง ยังทำให้น้ำเป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งปลากัดจะชอบ ส่วนน้ำใบหูกวางยังมีส่วนทำให้สีปลาเข้มขึ้นได้
นอกจากนี้ พบว่าได้มีการสกัดน้ำจากใบหูกวาง ส่งขายต่างประเทศสำหรับผู้เลี้ยงปลากัด ซึ่งคนส่วนใหญ่เชื่อว่า ใบหูกวาง ใช้ได้ดีกว่าใบโกงกาง ทั้งๆ ที่ความจริงสามารถใช้ใบโกงกาง หรือเปลือกโกงกางได้เช่นเดียวกัน ในส่วนผู้ขาย น.ส.กันตา พื้นผา อายุ 32 ปี ชาวเชียงใหม่ เจ้าของธุรกิจใบหูกวางแห้ง และขายทางเพจ ใบหูกวางตากแห้งคัดพิเศษ กล่าวว่า
ได้เริ่มต้นขายใบหูกวางแห้งเมื่อปี 59 ในช่วงเลี้ยงกุ้งก้ามแดง ซึ่งขณะนั้นกำลังบูม ราคาซื้อขายเป็นล้าน และพบว่าอาหารสำหรับกุ้งก้ามแดงมีราคาแพง กระทั่งมาเจอใบหูกวาง จึงทดลองใส่ในน้ำพบว่าน้ำไม่เสีย และลูกกุ้งไม่เป็นโรค ทำให้เกิดความคิดนำใบหูกวางมาขายผ่านเพจกุ้งก้ามแดงในเชียงใหม่
ด้วยวัย 32 ปี เรียกได้ว่า ใบหูกวาง คือ ใบเงินใบทอง สร้างรายได้ให้กับเธอ และเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีแผนขยายตลาดไปจีน จึงมีแนวคิดทำฉลากภาษาจีนเพื่อส่งออก มีการยื่นกู้เงินแบงก์มาลงทุน เธอเล่าว่า ตอนกู้แบงก์ ทางพนักงานยังทำท่างงๆ ไม่รู้ว่าใบหูกวางนำไปขายได้จริง จนเมื่อเปิดดูข้อมูลตามเว็บต่างๆ จึงเข้าใจ
ปัจจุบันเธอได้เงินกู้ไปลงทุนสมความตั้งใจ มองว่าประเทศจีนเป็นตลาดใหญ่ในการส่งออกขาย พร้อมจะทดลองใช้ใบหูกวาง กับปลาพันธุ์หางนกยุงราคาแพง ว่าใช้เห็นผลหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเคยใช้กับกบที่บิดาเลี้ยงไว้ผลลัพธ์ดี นำมาใช้สมานแ ผ ล กบที่ บ า ด เ จ็ บ บริเวณปากจนหายดี อย่างน่าแปลกใจ
ประโยชน์ของหูกวาง
1. เมล็ดหูกวางสามารถนำมารับประทานได้ และยังมีโปรตีนที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายของเราอีกด้วย
2. คุณค่าทางโภชนาการของเมล็ดหูกวาง ต่อ 100 กรัม ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายประกอบไปด้วย พลังงาน 594 แคลอรี, น้ำ 4%, โปรตีน 20.8 กรัม, ไขมัน 54 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 19.2 กรัม, ใยอาหาร 2.3 กรัม, วิตามินบี1 0.32 มิลลิกรัม, วิตามินบี2 0.08 มิลลิกรัม, วิตามินบี3 0.6 มิลลิกรัม, แคลเซียม 32 มิลลิกรัม, ฟอสฟอรัส 789 มิลลิกรัม, และธาตุเหล็ก 9.2 มิลลิกรัม เป็นต้น
3. เมล็ดสามารถนำเอาไปทำเป็นน้ำมันเพื่อนำไปใช้บริโภค (คล้ายน้ำมันอัลมอนด์) หรือทำเครื่องสำอางได้
4. เปลือกและผลมีสารฝาดมาก สามารถนำมาใช้ในอุตสาหกรรมย้อมสีผ้า ฟอกหนังสัตว์ และทำหมึกได้ ในอดีตมีการนำเอาเปลือกผลซึ่งมีสารแทนนินมาใช้ในการย้อมหวาย และได้มีการทดลองใช้ใบเพื่อย้อมสีเส้นไหม พบว่าสีที่ได้คือสีเหลือง สีเขียวขี้ม้า หรือสีน้ำตาลเขียว
5. ใบแก่นำมาแช่น้ำใช้รักษาบาดแผลของปลาสวยงาม อย่างเช่น ปลากัด ปลาหางนกยูงได้ อีกทั้งยังช่วยบำรุงสุขภาพปลาและสีสันของปลา ช่วยทำให้ตับของปลานั้นดีขึ้น จึงส่งผลให้ปลาแข็งแรง ช่วยป้องกันไม่ให้ปลาเป็น โ ร ค (แต่ควรระมัดระวังเรื่องของย า กำ จั ด เเมลงที่อาจพบได้ในใบหูกวาง) (รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ)
6. เนื้อไม้หูกวาง สามารถนำมาใช้ในการก่อสร้าง ทำบ้านเรือน หรือเครื่องเรือนได้ดี เพราะเป็นไม้ที่ไม่มีมอดและเเมลงมารบกวน หรือนำมาใช้ทำฟืนและถ่านก็ได้
7. ในปัจจุบันต้นหูกวางเป็นพรรณไม้ที่นิยมปลูกกันมาก เพื่อเป็นไม้ประดับตามข้างทางหรือตามสถานที่ต่างๆ เช่น สวนสาธารณะ สถานที่ราชการ ริมถนน สวนป่า หรือปลูกในที่โล่งต่างๆ เป็นต้น โดยเป็นต้นไม้ที่ปลูกเลี้ยงง่าย โตเร็ว ทนแล้ง
“กันตา พื้นผา” หรือ อาร์ วัย 32 ปี อดีตครูที่ทำธุรกิจขายใบหูกวางตากแห้งคัดพิเศษส่งทั่วไทยและต่างประเทศ
ข้อมูลและภาพจาก pagenews, chiangmainews