“ถั่วแระญี่ปุ่น” เค็มๆ หอมๆ เป็นอาหารแกล้มเหล้าจานโปรดของใครหลายๆ คน แต่คุณอาจจะคิดไม่ถึงว่ากับแกล้มจานนี้ จริงๆ แล้วเป็นผู้ช่วยในการลดน้ำหนักอย่างดี 

        เร็วๆ นี้มีหญิงสาวคนหนึ่งในระยะเวลาสั้นๆ แค่ 3 เดือนน้ำหนักลดลงไป 10 กก. ทั้งหมดก็เพราะทำตามที่นักโภชนาการแนะนำ “กินถั่วแระญี่ปุ่น”

        จากการรายงานของ ETtoday Zhao Hanying ผู้อำนวยการศูนย์ให้คำปรึกษาด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพ Morning Light ชี้ให้เห็นว่า ถั่วแระญี่ปุ่น คือ “ถั่วเหลืองฝักสด” ด้านนอกเป็นสีเขียว แบ่งออกเป็นชนิดมีเปลือกและไร้เปลือก ถือเป็นผักชนิดหนึ่ง แต่คุณค่าทางโภชนาการเทียบได้กับ “ถั่ว ปลา เนื้อ ไข่” มีโปรตีนสูงกว่าผักทั่วไป ในขณะเดียวกันก็มีทั้งคุณค่าทางโภชนาการของถั่วและผัก เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

        รายงานเล่าว่า ที่คลินิกลดน้ำหนักของเธอ เคยมีนักเรียนหญิงคนหนึ่งวัย 35 ปีที่เป็นมังสวิรัติ เพราะว่าชอบกินอาหารทอด แถมยังกินข้าวเยอะ ทำให้ในเวลาสั้นๆ แค่ 1 ปี น้ำหนักของเธอขึ้นมาถึง 10 กก. สาเหตุหลักที่ทำให้เธออ้วนก็คือ รับประทานอาหารแปรรูป และซอสปรุงรสต่างๆ มากเกินไป

        ดังนั้นหลังจากได้รับคำแนะนำจากนักโภชนาการ เธอจึงเอาถั่วแระญี่ปุ่นไปนึ่งหรือต้ม จากนั้นใส่เห็ดหอม แครอท ถั่วงอกและข้าว กลายเป็นข้าวสไตล์ญี่ปุ่น หรืออาจจะใส่ฟักทอง มันแทนข้าว ตามด้วยพริกหวานแดง เหลือง เห็ดหูหนู และผักหลากชนิด ทำให้ใน 3 เดือนเธอน้ำหนักลดลงได้ 10 กก.

แล้วกินถั่วแระญี่ปุ่นยังไงให้น้ำหนักลด ? 

        เหตุผลก็เพราะมันเทียบได้กับถั่วเหลือง โปรตีนในถั่วแระญี่ปุ่นแม้ว่าจะต่ำกว่านิดหน่อย แต่แคลอรี่ก็แค่ครึ่งหนึ่งของถั่วเหลือง แถมมีเบต้าแคโรทีนมากกว่าถั่วเหลืองถึง 10 เท่า เหมาะกับการนำมากินเป็นของว่าง

        Zhao Hanying วิเคราะห์ว่า สำหรับคนที่กินมังสวิรัติไม่กินเนื้อสัตว์แล้ว ถั่วแระญี่ปุ่นเป็นตัวเลือกที่ดี ถั่วแระญี่ปุ่น 100 กรัมให้แคลอรี่ประมาณ 125 Kcal มีโปรตีน 13.8 กรัม อุดมไปด้วยไฟเบอร์ 8.7 กรัม คาร์โบไฮเดรตเพียง 6.1 กรัม คลินิกลดน้ำหนักมักจะแนะนำให้เอาถั่วแระญี่ปุ่นมากินเป็นของว่างยามบ่าย หรือมื้อดึก “ถั่วแระญี่ปุ่นหนึ่งชามสามารถช่วยให้อิ่มท้องได้ แถมยังเป็นผู้ช่วยที่ดีในการลดน้ำหนัก”

        Zhao Hanying ยังแนะนำของหวานอีกเมนู “ถั่วแระญี่ปุ่นน้ำกะทิ” เอาถั่วแระญี่ปุ่นไปปั่นจนละเอียดผสมกับกะทิ ถือเป็นอาหารแคลอรี่ต่ำ

        สุดท้าย Zhao Hanying ยังแนะนำ ถ้าคุณเป็นโรคโลหิตจาง ขอแนะนำให้กินถั่วแระญี่ปุ่นทั้งเปลือก เพราะบนเปลือกมีวิตามิน B12 แถมยังมีไฟเบอร์สูง คาร์โบไฮเดรตต่ำ ถ้ากินถั่วแระญี่ปุ่นแทนข้าวก็โอเค

        แล้ว “เปลือกถั่วแระญี่ปุ่นกินยังไง ?” Zhao Hanying แนะนำว่า ให้เคี้ยวๆ แล้วค่อยคายทิ้ง เพราะบนเปลือกมีวิตามิน B12 ถ้าทิ้งไปก็จะเสียดาย

        ยิ่งคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง น้ำตาลสูง คลอเรสเตอรอลสูง เนื่องจากถั่วเหลืองและถั่วแระญี่ปุ่นนั้นมีคุณสมบัติคล้ายกัน อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ซาโปนิน ไม่มีคลอเรสเตอรอล อาจกล่าวได้ว่าเป็นแหล่งสำคัญของโปรตีนทดแทน ดังนั้นขอแนะนำให้รับประทานวันละ 100 กรัม และไม่ต้องกังวลว่ารับประทานมากเกินไปจะเป็นอันตราย

        ในความเป็นจริงคุณค่าทางโภชนาการของถั่วแระญี่ปุ่นสูงมาก ก่อนหน้านี่ถูกจัดโดยอเมริกาว่าเป็น “150 วัตถุดิบที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายที่สุด” เนื่องจากถั่วแระญี่ปุ่นมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ไขมันต่ำ ไม่มีคลอเรสเตอรอล โปรตีนคุณภาพสูง ไอโซฟลาโวน (isoflavone) ไม่เพียงสามารถช่วยบำรุงผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน ยังช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด

        นักโภชนาการ Wu Yueying ยังกล่าวอีกว่า “ในแง่ของโปรตีนมันเป็นสิ่งที่ดีมาก แถมไม่เพิ่มภาระของโรคหัวใจและหลอดเลือด” ถ้าใครกำลังอยากลดน้ำหนัก เอาไปลองดูได้

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR