เศรษฐีที่ติดดินที่สุด เขารวยมาก แต่กลับสอนลูกให้จน ให้ลูกล้างรถ แลกกับค่าขนม

LIEKR:

เป็นอะไรที่คุณพ่อคุณแม่ควรได้อ่านจริง ๆ

        นักการศึกษา Merkel เคยกล่าวไว้ว่าการศึกษาเรื่องการเงินเป็นหลักสูตรภาคบังคับในชีวิต ความสำคัญของการอบรมสั่งสอนลูก ก็สำคัญเช่นเดียวกับเรื่องเงินทองในครอบครัว ในชีวิตจริง พ่อแม่มากมายมักละเลยการปลูกฝัง “มุมมองเรื่องเงิน” กับลูก ๆ คิดไปว่าเด็ก ๆ ยังไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องเงิน รอพวกเขาโตก่อนก็ยังไม่สาย

        จริง ๆ แล้ว การปลูกฝังมุมมองเรื่องเงินทองไม่เกี่ยวกับอายุ ทัศนะที่ดีเรื่องการเงินเป็นสมบัติไปตลอดชีวิตของเด็ก และควรเริ่มตั้งแต่วัยเยาว์ ความมั่งคั่งร่ำรวยไม่ใช่สิ่งที่ยื่นมือไปก็จะได้มา แต่ต้องอาศัยการทำงานหนักและสติปัญญา

 

Sponsored Ad

 

        กล่าวได้ว่า Guo Jingjing และเศรษฐีไฮโซชาวฮ่องกง Huo Qigang เป็นสามีภรรยาที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เรื่องราวความรักของคนทั้งสองเป็นที่พูดถึงไปทั่ว ถึงปัจจุบันนี้ความรักของสองสามีภรรยาไม่เพียงเหมือนตอนแรกเริ่ม แต่ยังมีพยานรักเพิ่มขึ้นมาถึง 3 คน เป็นครอบครัวที่น่าอิจฉา

 

Sponsored Ad

 

        แม้จะเกิดมาในครอบครัวร่ำรวย แต่วิธีการอบรมสั่งสอนลูกของ Huo Qigang ก็ติดดินมาก ก่อนหน้านี้เขากับ Guo Jingjing มักจะพาลูกชายคนโตไปร่วมงานการกุศลหลายครั้ง ทำให้ถูกชาวเนตไม่น้อยขนานนามว่า “เศรษฐีที่ติดดินที่สุด”

        ก่อนหน้านี้สองสามีภรรยายังเคยพาลูกชายไปทดลองชีวิตการเป็นชาวนา สามคนพ่อแม่ลูกลงนาปลูกข้าว ท่าทางจริงจัง ทะมัดทะแมง ดูไม่ออกเลยว่าเป็นเศรษฐี

 

Sponsored Ad

 

        ส่วนลูกชาย Huo Zhongxi แม้จะคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด แต่ตั้งแต่เด็ก ๆ ด้วยการอบรมสั่งสอนของพ่อแม่ทำให้เขารู้ความและเชื่อฟัง เพราะงั้นตอนลงไปดำนาแม้ว่าจะเปรอะเปื้อนโคลนไปทั้งตัวเขาก็ไม่บ่นสักนิด

        คืนวันที่ 11 เดือนธันวาคม Huo Qigang โพสภาพลูกชายคนโตกับลูกสาวคนรองบนโลกออนไลน์ ครั้งนี้แม้ว่าจะไม่ได้พาลูกทั้งสองไปทำการกุศลอะไร แต่ก็สามารถทำให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิต

 

Sponsored Ad

 

        ก่อนอื่นเลย Huo Qigang ก็ชื่นชมเทคโนโลยีที่ทำให้ชีวิตสะดวกสบาย ทำให้เด็ก ๆ ไม่จำเป็นต้องรู้คุณค่าของเงินทุก ๆ บาทเมื่อพวกเขามีเทคโนโลยีใช้ ครั้งนี้ Huo Qigang ต้องการให้ลูกได้เรียนรู้แนวคิดเกี่ยวกับเงินให้ชัดเจน “ไม่นานมานี้ครอบครัวเรามีกิจกรรมหนึ่งในวันสุดสัปดาห์ นั่นคือการช่วยพ่อล้างรถ! น้องสาวยังเล็ก รางวัลก็เลยเป็นขนมอร่อย ส่วนพี่ชายก็จะได้ค่าขนมนิดหน่อย ทำให้เขารู้จักคุณค่าของเงินและเบื้องหลังการซื้อของ ไม่ใช่เห็นอะไรชอบก็จะซื้อ” เขายังบอกว่า “ไม่รู้ว่าทำแบบนี้ถูกต้องมั้ย บางทีสำหรับพวกเด็ก ๆ แล้วอาจจะเป็นแค่โอกาสที่ได้เล่นน้ำ แต่แค่หวังว่าพวกเขาโตขึ้นจะเรียนรู้คุณค่าของทุกสิ่ง” ขอชื่นชมวิธีการสั่งสอนลูกครั้งนี้ของ Huo Qigang จริง ๆ

 

Sponsored Ad

 

        ภาพที่ Huo Qigang โพส Huo Zhongxi และน้องสาวใส่เสื้อผ้าเรียบง่ายแต่ก็ยังน่ารัก ทั้งพี่ชายและน้องสาวโตขึ้นเยอะมาก พวกเขาให้ความร่วมมืออย่างมากระหว่างการล้างรถ อาจจะเป็นเพราะมีรางวัลมาล่อ สองพี่น้องก็เลยทำสุดตัว พินิจดูรูป น้องสาวไม่เพียงดึงแขนเสื้อขึ้นสูง แม้แต่ขากางเกงก็ยังดึงขึ้นมา นี่มัน “พนักงานล้างรถตัวจ้อย” ชัด ๆ

 

Sponsored Ad

 

        เมื่อเห็นภาพที่ Huo Qigang โพสแล้ว ชาวเนตไม่น้อยก็เข้ามาคอมเม้นท์ “สอนลูกได้เยี่ยมมาก”, “เป็นพ่อแม่ที่ใส่ใจลูกมา....เต็มไปด้วยความรักและความหมาย”, “เรียนรู้ที่จะเห็นคุณค่าสำคัญมาก และรู้จักเคารพผลของสิ่งที่ตัวเองลงแรง”

        จริง ๆ แล้วการสอนลูกให้รู้จักคุณค่าของเงินตั้งแต่เล็กไม่ใช่เรื่องไม่ดี กุญแจสำคัญคือวิธีที่ผู้ปกครองให้คำแนะนำ

1. อย่าตามใจลูกทุกอย่าง

        ไม่ว่าจะหาเงินได้มากน้อยแค่ไหน ยังไงก็ไม่สามารถเติมความปรารถนาได้เต็ม การพัฒนาคุณภาพชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับระดับของรายได้ แต่ขึ้นอยู่กับการควบคุมรายได้ ถ้ารายได้แต่ละเดือนเยอะมาก แต่ความต้องการก็มากขึ้นเรื่อย ๆ ความสุขจะไม่เพิ่มไปพร้อมกับรายได้ เพราะงั้นเวลาพ่อแม่สั่งสอนลูก ก็อย่าตามใจลูกไปหมด บางครั้งความไม่พอใจที่พอเหมาะ จะทำให้เด็กรู้สึกมีความสุขมากขึ้น ตอนที่พวกเขาไม่ได้ดังใจ พวกเราต้องบอกพวกเขาว่า เงินทองของพ่อแม่ไม่ได้พัดมากับลม ต้องอาศัยหยาดเหงื่อหามา เพราะงั้นต้องใช้เงินอย่างรู้คุณค่า

Sponsored Ad

2. ให้โอกาสลูกในการหาเงิน

        เห็นด้วยกับ Huo Qigang ในวิธีนี้ วัตถุประสงค์ของการทำแบบนี้ไม่ได้เพื่อให้ลูกลำบาก แต่เพื่อให้พวกเขามีไอเดียเรื่องค่าขนม และทำให้ลูกรู้ว่าเงินมาจากไหน เด็กหลายคนได้รับผลกระทบจากการจ่ายเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ คิดว่าการใช้เงินซื้อของก็แค่การสแกน QR โค้ด แต่ลูกไม่เข้าใจว่า “ตัวเลข” ในมือถือเหล่านั้นมาจากความลำบากของพ่อแม่ ถ้าพ่อแม่ให้โอกาสลูกหาเงินค่าขนม ก็จะทำให้พวกเขาได้รู้ว่าโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ และทำให้พวกเขารู้ว่าการใช้ชีวิตไม่ง่าย เรียนรู้ที่จะใช้จ่ายอย่างเหมาะสม

        หลายคนบอกว่าเวลาสอนลูกไม่ควรพูดถึงเรื่องเงิน เพราะจะทำให้เด็กกลายเป็นคนวัตถุนิยม แต่จริง ๆ แล้วเพียงแค่พ่อแม่สอนอย่างถูกต้อง ลูกไม่เพียงไม่เป็นคนวัตถุนิม แต่ยังมีมุมมองที่ถูกต้องเกี่ยวกับเงินด้วย เมื่อลูกรู้ว่าเงินได้มากจากความพยายามของตัวเอง ก็จะรู้จักเห็นคุณค่า ในอนาคตก็จะมีจุดยืนที่ดีในสังคม

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR

บทความที่คุณอาจสนใจ